สล็อตแตกง่าย‘สนธิญา’ ฟ้อง สี่แยกปากหวาน ชี้เนื้อเพลงเหน็บ รบ. ผิดกฎหมาย

สล็อตแตกง่าย‘สนธิญา’ ฟ้อง สี่แยกปากหวาน ชี้เนื้อเพลงเหน็บ รบ. ผิดกฎหมาย

สนธิญา ยื่นฟ้องขอให้ตรวจสอบ สี่แยกปากหวาน หลังขึ้นคอนเสิร์ตสล็อตแตกง่าย ร้องเพลงพิเศษมีเนื้อหาเหน็บรัฐบาล ชี้อาจผิด พรบ. คอมพิวเตอร์ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษา ประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายยุติธรรม และ สิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ปรัญญา รองสารวัตร(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. ร้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริง การกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาตรา 114 และ 115 ของนักร้องสี่คนได้แก่ 1.อ๊อฟ ปองศักดิ์ รัตนพงษ์ 2.ว่าน ธนกฤต พานิชวิทย์ 3.ป๊อป ปองกูล สืบซึ้ง และ 4.โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน ที่ขึ้นแสดงคอนเสิร์ต “สี่แยกปากหวาน ตอน Will survive #สู้ตายเราต้องรอด” เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา

ในคอนเสิร์ตสี่แยกปากหวาน นักร้องทั้ง 4 ท่าน 

ได้แต่งเพลงพิเศษจำนวน 2 เพลง นำลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ TikTok และระบบคอมพิวเตอร์ในยูทูบ และนำมาลงในเฟซบุ๊กบางส่วน ที่เป็นระบบสาธารณะมีประชาชนเข้าถึงได้แบบไม่จำกัด ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยมีผู้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์กว่า 120 ล้านรายชื่อ และสามารถรับชมได้ทั่วโลก

ในเนื้อเพลงของสี่แยกปากหวาน ที่่แต่งขึ้นพิเศษทั้ง 2 เพลง มี ข้อความ แซะ ด่าทอ ใส่ร้ายด้วยความเท็จต่อรัฐบาล และผู้บริหารประเทศเป็นลำดับตลอดเวลา ที่ไม่จริง และนำความจริงมาไม่หมด บิดเบือน สร้างความเสียหายวุ่นวายให้เกิดขึ้นได้ จากข้อมูลที่มีการแสดงแล้วนำมาลงในระบบคอมพิวเตอร์ เช่น

1.เนื้อเพลงที่ระบุว่า “ประเทศเรากำลังจะพัง แต่ลูกค้าการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องทั้ง 4 ท่านนี้ บัตรเต็ม มีผู้เข้าชมเต็ม และบัตรการแสดงราคาสูงสุดของบัตรคือ 4,000 บาท”

2.พวกนี้รวยเป็นที่สนใจในยุคประยุทธ์ทั้งนั้น

3.รัฐบาลเผด็จการ ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบันประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

4.สร้างหนี้ก่อนโต

5.งานไม่ทำ หมายถึงรัฐบาลไม่ทำงาน หากรัฐบาลไม่ทำงานแล้วพวกนักร้องจะมาแสดงคอนเสิร์ตเก็บบัตรราคา 4,000 บาท

6.นาฬิกายังไม่คืน

7.ผู้นำไม่ตื่น

8.เวลา 8 ปีไม่มีความหมาย

9.ชอบแจกเงิน เหมือนกูเป็นขอทาน

นายสนธิญา กล่าวอีกว่า การแสดงนักร้องทั้ง 4 ท่านนั้น มีประชาชนเข้าไปชมการแสดง มีการนำการแสดงเหล่านี้มาลงในระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ว่า TikTok ยูทูบ เฟซบุ๊ก และอื่น ๆ ในระบบสาธารณะที่สามารถเข้าถึงได้แบบไม่มีขอบเขตจำกัด และข้อความที่นำไปลงนั้นก็ บิดเบือน นำไปลงไม่หมด เป็นความเท็จ ใส่ร้าย ด้วยความสนุกสนานไม่รับผิดชอบ ทั้ง ๆ ที่สามารถนำเรื่องอื่น ๆ ไปทำการแสดงได้โดยไม่ผิดกฎหมายและทำให้ใคร หรือประเทศ ผู้บริหารประเทศเสีย

นายสนธิญา กล่าวต่อว่า อันจะนำมาสู่ความวุ่นวายจากการนำความเท็จมาเผยแพร่ครั้งนี้ได้ และนักร้องทั้ง 4 ท่าน ก็คงจะรับผิดชอบอะไรไปมากกว่าการขอโทษ และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ด้วยนักร้องบางท่านในกลุ่ม 4 คนนี้มีการนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว แซะ ใส่ร้าย ด่า และนำความเท็จลงมาสู่คอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่เป็นระบบสาธารณะมาแล้วตลอดเวลา ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา

นายสนธิญา กล่าวอีกว่า ขอให้ ผบก.ปอท. ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นทั้งหมดว่า นักร้องทั้ง 4 ท่านได้มีการพูดกระทำการดังกล่าวจริง ๆ หรือไม่ และให้ตรวจสอบทั้ง 9 ประเด็นว่า นักร้องทั้ง 4 ท่านได้นำเอาความเท็จ หรือบางส่วนลงไปในระบบคอมพิวเตอร์แล้วทำให้เกิดความเสียหายหรือไม่ ถ้าพบว่ามีความผิดให้เรียกนักร้องทั้ง 4 ท่าน มาดำเนินคดีตามกฎหมายพระราชบัญญัติการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2560 มาตรา 14 มาตรา 15 ต่อไป

ครม. ไฟเขียวแจก เงิน อสม. – อสส. 2,000 บาท ย้อนหลัง 4 เดิอน

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติแจก เงิน อสม. และ อสส. คนละ 2,000 บาท ดูแลประชาชนช่วงโควิดระบาด ย้อนหลัง 4 เดือน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เรื่องเงิน อสม – อสส 2,000 บาท ว่า ที่ประชุมครม. มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 2,100.61 ล้านบาท

เงิน อสม หรือ อสส. ถือเป็นเงินที่ถูกมอบให้ เป็นค่าตอบแทนให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จำนวน 1,039,729 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) จำนวน 10,577 คน รวม 1,050,306 คน ในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ย.65 รวม 4 เดือน ในอัตรา 500 บาทต่อคนต่อเดือน รวมเป็น 2,000 บาทต่อคน ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดการระบาดโควิด-19 ได้มีการชดเชยอสม.ไปแล้วทั้งสิ้น 2 ปี 6 เดือน

พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำว่า ในการโพสต์ข้อมูลต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวังและไม่กระทำผิดกฎหมาย เนื่องจากปัจจุบันกระทรวงฯ ให้ความสำคัญและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างเคร่งครัด โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการในการระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ และปฏิบัติตามกฎหมายด้วยดี

“หากไม่ปฏิบัติตามจะเข้าข่ายการกระทำความผิด ตามมาตรา 15 ผู้ให้บริการผู้ใดให้ความร่วมมือ ยินยอม หรือรู้เห็นเป็นใจให้มีการกระทําความผิด ตามมาตรา 14 ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทําความผิด ตามมาตรา 14 ให้รัฐมนตรีออกประกาศกําหนดขั้นตอนการแจ้งเตือน การระงับการทําให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ และการนําข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์ถ้าผู้ให้บริการพิสูจน์ได้ว่าตนได้ปฏิบัติตามประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามวรรคสอง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ” นายชัยวุฒิ